Anjali clinic Logo
Biostimulator

Radiesse คืออะไร ? ช่วยอะไรบ้าง ?

Radiesse สารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ ฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดผิว ฉีดได้ทั้งหน้า คอ และมือ โดยมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือ CaHA ซึ่งเป็นสารที่พบได้อยู่แล้วในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้กับร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ จากงานวิจัยพบว่า 94 % ของคนไข้ที่เคยใช้แนะนำต่อ

ทีมแพทย์ Anjaliby: ทีมแพทย์ Anjaliอัพเดทเมื่อ: 2025-04-05

Radiesse คืออะไร

Radiesse คือ Regenerative Biostimulator มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ใต้ชั้นผิว ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเองโดยธรรมชาติ เติมเต็มวอลลุ่ม ฟื้นฟูคุณภาพผิว ลดริ้วรอย ทำให้ผิวกระชับมากขึ้น ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นการฟื้นฟูคุณภาพและโครงสร้างผิวจากกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเอง ไม่ใช่การเติมเต็มโดยตรงเหมือนฟิลเลอร์ และไม่ใช่เนื้อเจล จึงได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าการเติมฟิลเลอร์

Radiesse ช่วยอะไรบ้าง

Radiesse ช่วยการกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ นอกจากช่วงให้โครงสร้างผิวแข็งแรง และช่วยเพิ่มวอลลุ่ม ยังสามารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน โดยมีตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีดดังนี้

  1. ขมับ : ช่วยเติมเต็มบริเวณขมับ เพื่อแก้ปัญหาขมับตอบที่ทำให้หน้าดูโทรมและมีอายุ
  2. ร่องแก้ม : ช่วยเเติมเต็มลดร่องลึก เส้นข้างแก้มที่ทำให้มีอายุ
  3. ร่องน้ำหมาก : ช่วยเติมเต็มเพื่อลดร่องลึกบริเวณเส้นขีดตรงมุมปากที่ลงคางให้ตื้นขึ้น ถ้าเส้นร่องน้ำหมากชัด ยิ่งดูมีอายุมาก
  4. หน้าแก้ม : ช่วยเติมเต็มวอลุ่มที่ขาดหายไปตาม aging process ช่วยยกกระชับใบหน้า และฟื้นฟูคุณภาพผิว
  5. กรอบหน้า : ช่วยยกกระชับผิวบริเวณที่หย่อนคล้อย ผิวกระชับ หน้ายก เพิ่มความคมชัดให้บริเวณกรอบหน้า
  6. คอ : ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยพับบริเวณคอ แก้ปัญหาคอเหี่ยว กระชับผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น
  7. หลังมือ : ช่วยฟื้นฟูผิว เติมเต็มผิวหลังมือที่เหี่ยว มือแก่ จาก aging process ทำให้สูญเสียไขมัน เห็นเส้นเอ็นและเส้นเลือดชัด
  8. เนินอก: ช่วยลดเลือนริ้วรอบ กระชับผิวบริเวณเนินอก แก้ปัญหาผิวเหี่ยว ผิวย่น

จุดเด่น Radiesse

  1. เป็นสารฉีดกระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่แบบครบถ้วน x 5 ประการ มี 3 คุณสมบัติเด่น
    • (5) ส่วนประกอบหลักสำคัญคือ CaHA หรือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite)
    • (5) กระตุ้นครบถ้วน 5 อย่าง ทั้ง Collagen Type1, Collagen Type 3, Elasrin Fiber, Proteoglycane และAngiogenesis
    • (5) จุดเด่น 5 อย่าง สะดวก นิยม ปลอดภัย วางใจ และถูกใจผู้ใช้จริง
  2. ได้รับการอนุมัติและรับรองความน่าเชื่อถือจาก อย. ถึงกว่า 3 หน่วยงาน ทั้ง EU,US และ THFDA และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ US-FDA สำหรับการใช้ฉีดที่มือด้วย ถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2006
  3. มีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ โดยองค์ประกอบได้รับการปรับให้เข้ากับร่างกายมนุษย์มากที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและการปฏิเสธ จึงไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบการแพ้ก่อนการรักษา เมื่อเวลาผ่านไปสารออกฤทธิ์จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์
  4. ยังถูกใช้งานโดยแพทย์ทั่วโลกมาแล้วนานกว่า 20 ปี และมีผลงานวิจัยรองรับในตัวผลิตภัณฑ์โปรแกรม Radiesse ถึงมากกว่า 250 ฉบับ ทั้งยังได้รับความนิยมจากทั่วทั้งโลกการันตีจากยอดใช้ 15 ล้านไซริงจากการใช้งานทั่วทั้งโลก

Radiesse เหมาะกับ ใคร ?

1. ท่านที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป2. ใบหน้าเริ่มสูญเสียคอลลาเจน อีลาสติน สุขภาพผิวไม่ดี ขาดการบำรุง 3. ท่านที่ใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด4. ท่านที่ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำ5. มีร่องลึกต่างๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นรอบปาก6. แก้ปัญหาความเหี่ยวย่นบริเวณ หลังมือ และคอ7. แก้ปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่นบริเวณ คอ เนินอกสำหรับผู้หญิง

นอกจากจะเหมาะกับกลุ่มที่อายุ 35 ปีขึ้นไปหรือมีปัญหาผิวแล้ว ยังเหมาะกับ คนที่ยังไม่มีความหย่อนคล้อย แต่ต้องการชะลอความหย่อนคล้อยให้นานที่สุด ด้วยค่ะ เพราะ Radiesse มีคุณสมบัติพิเศษในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้นในระยะยาว เหมาะมากสำหรับผู้ที่เริ่มกังวลเรื่องความหย่อนคล้อยและต้องการดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อคงความอ่อนเยาว์ไว้นานที่สุดค่ะ

ผลลัพธ์ของการฉีด Radiesse

ผลลัพธ์ของการฉีดจะอยู่ได้อย่างน้อย 1 ปี และสามารถอยู่ได้นานมากกว่านั้น ขึ้นกับคนไข้แต่ละท่าน ตำแหน่งที่ฉีด คุณภาพผิวเดิม และอายุ แต่ด้วยผลลัพธ์ของ CaHA จึงทำให้ Radiesse เป็นฟิลเลอร์ที่เห็นผลได้ยาวนานกว่าฟิลเลอร์แบบปกติ

  1. ผลลัพธ์ทันที : หลังฉีดจะมีฤทธิ์การยกของผิว เกิดความกระชับ ร่องลึกต่าง ๆ ที่ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง

ผลลัพธ์ระยะยาว : หลังจากการฉีด 3-4 สัปดาห์ CaHA ใน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณภาพผิวบริเวณที่ฉีดดีขึ้น กระชับขึ้น ยืดหยุ่นขึ้น และวอลุ่มบริเวณนั้นก็จะดีขึ้นเช่นกัน

การดูแลตัวเองหลังทำ Radiesse

  1. หลังทำ Radiesse อาจมีอาการ บวม แดง ช้ำ คันและกดเจ็บบริเวณที่ฉีดได้ อาการเหล่านั้นจะหายไปไม่เกิน 2-3 วัน สามารถประคบความเย็นได้เพื่อบรรเทาอาการได้
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วงแรก ๆ และห้ามนวดหรือกดแรงบริเวณนั้น
  3. หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด ออกกำลังกายหนัก หรือไปสถานที่ที่มีความร้อนสูงเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงแรก เนื่องอาจทำให้เกิดการบวมได้มากขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงยากลุ่มแอสไพริน หรือ NSAID อย่างน้อย 1 สัปดาห์ สามารถใช้ยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้หากมีอาการปวด
  6. ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยความระมัดระวังในช่วงแรก ๆ และหลีกเลี่ยงการขัดถูแรงเกินไป

ติดตามและปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น

รับโปรโมชั่นได้ที่ Line: @anjaliclinic


สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติม?

ติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลเกี่ยวกับบริการของเรา

โปรโมชั่นประเมินใบหน้าฟรีติดต่อเราเรียกดูคนติดต่อเรา