การทานอาหารเสริมวิตามิน หรือการดริปวิตามิน iv drip มีข้อดีและคุณประโยชน์หลายประการ เพราะการทานอาหารเสริมวิตามิน สามารถช่วยแก้ไขภาวะ
การทานอาหารเสริมวิตามิน หรือการดริปวิตามิน iv dripมีข้อดีและคุณประโยชน์หลายประการ เพราะการทานอาหารเสริมวิตามิน สามารถช่วยแก้ไขภาวะ หรือข้อบกพร่องการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายได้ และยังช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม โดยวิตามินมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกายหลายด้าน รวมถึงการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญ การซ่อมแซมเซลล์ การบริโภควิตามินที่เพียงพอจะช่วยในการเสริมสุขภาพโดยรวมได้
ถ้าคุณกำลังมองหาวิตามินที่มีสรรพคุณ ในเรื่องของการช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ อยากจะนอนหลับให้สบายขึ้น ลึกขึ้น และต้องการวิตามินบำรุงผิว ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย อยากจะทำให้ผิวนั้นดูมีความสดใส ตลอดจนมีความต้องการในการทำความรู้จักกับวิตามิน ที่ช่วยในการบำรุงหลอดเลือด และป้องกันโรคNCD หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง วันนี้เราก็มีวิตามินที่มีสรรพคุณที่น่าสนใจมาแนะนำกัน
การสั่งจ่ายวิตามินและอาหารเสริม ควรจ่ายโดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล และต้องประเมินสถานะสุขภาพ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ต้องมีการกำหนดหรือแนะนำปริมาณการทานวิตามินที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล หลีกเลี่ยงการทานในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากวิตามินบางชนิด เมื่อทานเข้าไปจำนวนมาก ๆ อาจเป็นอันตรายได้ เช่น
วิตามินดี 3 เป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยเสริมสุขภาพกระดูก ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังส่งผลทางอ้อมต่อการนอนหลับ แต่ก็ไม่ได้มีบทบาทโดยตรงในการควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่นเช่น เมลาโทนิน การมีระดับวิตามิน D ที่เพียงพอ อาจช่วยทำให้มีการนอนหลับที่ดีขึ้นได้
และนอกเหนือไปจากการรับประทานวิตามินผ่านทางการกินแล้ว ก็มีการเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย ด้วยการรับวิตามินในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นก็คือการดริป iv drip ย่อมาจาก Intravenous Drip iv drip คืออะไร ขอบอกเลยว่า เป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่นำของเหลว ยา สารอาหาร วิตามิน หรือสารอื่น ๆ ส่งไปในกระแสเลือดผ่านทางหลอดเลือดดำ จากการใช้สาย IV (สายน้ำเกลือ) โดยสาย IV จะถูกสอดเข้าไปในหลอดเลือดดำ บริเวณแขน
โดยการบำบัดด้วยวิตามิน IV จะเป็นการส่งวิตามินและสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ส่งผลทำให้เกิดการดูดซึมได้รวดเร็วและสมบูรณ์ทำให้สารอาหารเข้าถึงเซลล์ได้อย่างรวดเร็ว แต่การทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามินบํารุงผิว ผม เล็บ จะต้องผ่านทางเดินอาหารก่อน ซึ่งอาจชะลอการดูดซึมและลดประสิทธิภาพลงได้
ถ้าคุณมีปัญหาในเรื่องของการนอนหลับ นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ นอนหลับยาก นอนหลับไม่ลึก ตื่นมาแล้วรู้สึกอ่อนเพลียและไม่สดชื่นเอาซะเลย ขอแนะนำวิตามิน วิตามิน ช่วยการนอนหลับ 2 ตัวนี้
เป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมไพเนียลในสมอง มีบทบาทสำคัญในการควบคุมวงจรการนอนหลับ-ตื่น (จังหวะการเต้นของหัวใจ) และส่งเสริมการนอนหลับที่ดี อาหารเสริมเมลาโทนินมักใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับ อาหารเสริมเมลาโทนินช่วยในการส่งเสริมการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรับประทานในเวลาและปริมาณที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามประสิทธิผลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ขอแนะนำวิตามินบำรุงผิว 2 ชนิดที่ได้รับความนิยม
บทบาทในการดูแลผิว แอสตาแซนธิน พบได้ในสาหร่าย อาหารทะเล จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ ที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากความเครียด จากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นที่เกิดจากรังสียูวี และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ และแอสตาแซนธินยังมีชื่อเสียงในด้านการต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย ชะลอการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน และความเสียหายของผิวหนัง
งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า แอสตาแซนธินอาจมอบการปกป้องแสงแดดตามธรรมชาติในระดับหนึ่ง และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิวและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งอาจลดการปรากฏของริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
CoQ10 หรือที่เรียกว่า ubiquinone เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานของเซลล์ ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระ CoQ10 คือ ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งอาจเกิดจากรังสี UV และความเครียดจากสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ
การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่า CoQ10 อาจสนับสนุนการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ช่วยรักษาความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว
และมีศักยภาพในการต่อต้านวัย CoQ10 มักใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อต่อต้านริ้วรอยแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ
Resveratrol จัดเป็นสารประกอบธรรมชาติที่พบในพืชบางชนิด เช่น องุ่น ไวน์แดง และผลเบอร์รี่ มักจัดอยู่ในประเภทโพลีฟีนอล และเป็นที่รู้จักในด้านประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงยังช่วยสนับสนุนสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แม้จะไม่ใช่วิตามิน แต่ก็ถือเป็นสารประกอบออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยบำรุงหลอดเลือดและมีส่วนช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อ (NCDs) Resveratrol เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ ที่ช่วยต่อสู้กับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกาย โดยความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดโรค NCDs ต่าง ๆ รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ
และช่วยปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือด ลดการอักเสบ และสนับสนุนให้ร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และการอักเสบเรื้อรังจัดเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาของการเกิดโรค NCDs คุณสมบัติต้านการอักเสบของ Resveratrol อาจช่วยบรรเทาการอักเสบ ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน มะเร็ง และโรคหัวใจ
นอกจากนี้งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า เรสเวอราทรอลอาจมีผลในการปกป้องระบบประสาท และอาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบประสาทเสื่อม เช่น โรคอัลไซเมอร์
สรุป ทั้งการทานวิตามินแบบรับประทาน และการบำบัดด้วย iv drip มีประโยชน์ในการเสริมความงาม ช่วยบำรุงผิว และดีต่อสุขภาพ การที่จะเลือกบำรุงด้วยวิธีไหนทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง ผลลัพธ์ที่ต้องการ ความสะดวก และงบประมาณ แนะนำให้ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ หรือคุณหมอเพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมที่สุด และการจะทานอาหารเสริมใด ๆ ก็ตามจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณเป็นที่ตั้ง