ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ทำจากไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า HA ซึ่งเป็นสารเลียนแบบสารธรรมชาติที่พบในร่างกาย โดย HA นี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและกระชับ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและไฮยาลูรอนในผิวลดลง ส่งผลให้ผิวบางลง เกิดริ้วรอย และขาดความเต่งตึง
การฉีดฟิลเลอร์ HA เข้าไปในบริเวณที่มีร่องลึกหรือริ้วรอย เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม จะช่วยเติมเต็มผิว ทำให้ริ้วรอยเหล่านั้นดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังมีความคงตัวและปลอดภัย สามารถนำมาใช้ในการปรับโครงสร้างของใบหน้า เช่น เสริมจมูก เสริมคาง เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูสวยสมส่วน อีกทั้งยังช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ทำให้รูขุมขนเล็กลง และผิวดูกระชับ เรียบเนียน นุ่มนวลอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
ประเภทของฟิลเลอร์
เนื้อฟิลเลอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่ต่างกัน ดังนี้ค่ะ
- ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฟิลเลอร์เนื้อแข็งมีลักษณะเนื้อเจลที่คงตัวและแน่นที่สุด เมื่อบีบออกมาจะเห็นเป็นเส้นที่จับตัวกันแน่น เหมาะสำหรับฉีดในชั้นกระดูกเพื่อยกโครงสร้างใบหน้า เช่น คาง โหนกแก้ม ตัวอย่างยี่ห้อที่ใช้ ได้แก่ Juvederm Voluma, Restylane Perlane Lift, Belotero Volume, และ Perfectha Subskin
- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มฟิลเลอร์เนื้อนิ่มมีลักษณะคล้ายเจลเยลลี่ มีความยืดหยุ่น นุ่ม ไม่เป็นก้อนและไม่เหลว เหมาะสำหรับฉีดในชั้นไขมันบนใบหน้า เช่น แก้ม ร่องแก้ม ตัวอย่างยี่ห้อที่ใช้ ได้แก่ Juvederm Ultra Plus, Restylane Classic, และ Belotero Balance
- ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดฟิลเลอร์เนื้อละเอียดมีความบางเบาและเหลวที่สุด คล้ายเนื้อน้ำ เหมาะสำหรับการฉีดในผิวชั้นตื้นเพื่อเติมความชุ่มชื้นและเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตา ตัวอย่างยี่ห้อที่ใช้ ได้แก่ Juvederm Volite, Restylane Vital Light, และ Belotero Soft
การเลือกเนื้อฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งและความต้องการจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนานขึ้นค่ะ
ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์เกาหลี ยุโรป และอเมริกา
ฟิลเลอร์จากเกาหลี ยุโรป และอเมริกามีคุณสมบัติและความแตกต่างที่ตอบโจทย์การใช้งานและงบประมาณที่หลากหลาย ดังนี้ค่ะ
- ฟิลเลอร์เกาหลี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและนุ่มนวล โดยเนื้อฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มีสัมผัสนุ่ม เรียบเนียน ทำให้ผลลัพธ์ดูละมุนและไม่เป็นก้อน นิยมใช้เติมในจุดต่าง ๆ ของใบหน้า ราคาย่อมเยาและคงอยู่ประมาณ 6-12 เดือนตัวอย่างยี่ห้อ
- e.p.t.q. ฟิลเลอร์จากเกาหลีที่ได้รับความนิยม มีจุดเด่นคือมีเนื้อฟิลเลอร์ 3 รุ่น ได้แก่ เนื้ออ่อน เนื้อกลาง และเนื้อแข็ง สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของปัญหาผิวแต่ละคน ฟิลเลอร์ e.p.t.q. มีความคงรูปดี ปั้นขึ้นทรงง่าย และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ราคาย่อมเยา เข้าถึงได้ง่าย
- Yvoire ผลิตโดยบริษัท LG Chem จากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำ เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นดี เติมแล้วไม่เป็นก้อน และเนียนไปกับผิว จุดเด่นอีกอย่างคือการออกแบบไซริงค์ที่ช่วยลดการเกิดฟองอากาศ ทำให้แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ได้ง่ายและแม่นยำ
- ฟิลเลอร์ยุโรป มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นและความคงทน ฟิลเลอร์ยุโรปให้ผลลัพธ์ที่เด่นชัดและคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี เหมาะสำหรับการปรับโครงสร้างใบหน้าและการเติมเต็มที่ต้องการความคงรูปตัวอย่างยี่ห้อ
- Restylane ผลิตโดยบริษัท Galderma จากสวีเดน ใช้เทคโนโลยี NASHA และ OBT ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงรูป และมีหลายรุ่นให้เลือกตามความเหมาะสม
- Belotero ผลิตโดยบริษัท Merz Pharma จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้ฟิลเลอร์มีความหนาแน่นและยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วคงรูปได้ดี ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์อเมริกา มีความคงทนสูงสุด สามารถเห็นผลลัพธ์ที่เด่นชัดและคงทนได้นาน โดยมักใช้เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า เติมเต็มร่องลึก และเพิ่มมิติในจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ริมฝีปาก คาง และขมับ ฟิลเลอร์อเมริกามีราคาสูงที่สุดในกลุ่มและสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปีตัวอย่างยี่ห้อ
- Juvederm ผลิตโดยบริษัท Allergan จากสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองจาก FDA ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติเฉพาะ เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวหนังและปรับรูปหน้า
เลือกฟิลเลอร์อย่างไร ฉีดตัวไหนดี ?
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการฉีด ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และงบประมาณของคุณค่ะ นี่คือแนวทางในการเลือกฟิลเลอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากที่สุด
1. เลือกตามตำแหน่งที่ต้องการฉีด
- ใต้ตา ริมฝีปาก เลือกฟิลเลอร์ เนื้ออ่อน เพราะมีความนุ่มและเรียบเนียน เติมเต็มได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับบริเวณผิวที่บอบบาง ตัวอย่างฟิลเลอร์เนื้ออ่อนที่นิยมใช้ เช่น Juvederm Volite (อเมริกา), Restylane Vital Light (ยุโรป), e.p.t.q S300 (เกาหลี)
- ร่องแก้ม หน้าผาก ขมับ ใช้ฟิลเลอร์ เนื้อกลาง ที่มีความยืดหยุ่นและคงรูปได้ดี เหมาะกับการเติมเต็มบริเวณที่ต้องการความละมุน แต่ไม่เป็นก้อน ตัวอย่างที่นิยม เช่น Juvederm Ultra Plus (อเมริกา), Restylane Classic (ยุโรป), Flore Max (เกาหลี)
- คาง โหนกแก้ม กรอบหน้า ใช้ฟิลเลอร์ เนื้อแข็ง ซึ่งมีความคงตัวสูงและคงรูปได้นาน จึงเหมาะสำหรับการปรับโครงสร้างใบหน้าให้ชัดเจน เช่น คาง โหนกแก้ม ฟิลเลอร์เนื้อแข็งสามารถคงผลลัพธ์ได้ถึง 12-24 เดือนหรือนานกว่านั้น ตัวอย่างฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่แนะนำ เช่น Juvederm Voluma (อเมริกา), Restylane Perlane Lift (ยุโรป), Yvoire Volume (เกาหลี)
2. เลือกตามอายุการคงทน
- ฟิลเลอร์เกาหลี มักมีอายุการใช้งานประมาณ 6-12 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองเติมฟิลเลอร์ในครั้งแรก หรือต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยืดหยุ่น
- ฟิลเลอร์ยุโรปและอเมริกา อายุการคงทนประมาณ 12-24 เดือน เนื่องจากเนื้อฟิลเลอร์มีความเข้มข้นและคงรูปสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวและชัดเจน
3. เลือกตามงบประมาณ
- ฟิลเลอร์เกาหลี ราคาย่อมเยากว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพและความปลอดภัยในราคาประหยัด
- ฟิลเลอร์ยุโรปและอเมริกา มีราคาสูงกว่า แต่ให้ความคงทนและความชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับโครงหน้าและเติมเต็มร่องลึกแบบคงทน
4. ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถแนะนำรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณได้ รวมถึงการประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยละมุนและปลอดภัย
เลือกฟิลเลอร์ที่ตรงกับตำแหน่งฉีดและผลลัพธ์ที่ต้องการ หากต้องการความคุ้มค่าในราคาย่อมเยา ฟิลเลอร์เกาหลีเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่คงทนและชัดเจน ฟิลเลอร์ยุโรปและอเมริกาจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม โดยเฉพาะฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่คงทนและชัดเจนในจุดที่ต้องการโครงสร้างใบหน้าชัดเจน เช่น คางและโหนกแก้มค่ะ
สรุปเลือกฟิลเลอร์ยังไงดี ?
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ หากต้องการความเป็นธรรมชาติและราคาย่อมเยา ฟิลเลอร์เกาหลีถือว่าตอบโจทย์ แต่ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่คงทนและชัดเจน ฟิลเลอร์ยุโรปหรืออเมริกาก็เป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงใจที่สุดค่ะ
สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติม?
ติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลเกี่ยวกับบริการของเรา