การฉีด stem cell ข้อดี ข้อเสียที่พบมีเรื่องไหนบ้าง แล้วการฉีดสเต็มเซลล์สามารถช่วยรักษาโรคใดได้บ้าง มาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ล้วนพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงไปแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้กระทั่งในวงการเกี่ยวกับความงามเอง ก็ได้เกิดนวัตกรรมความงาม หรือว่าหัตถการความงามขึ้นมาหลากหลายรูปแบบเลย นั่นก็เพื่อที่จะทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้คนในยุคนี้ที่ให้ความสนใจกับการดูแลตัวเองให้ได้มากที่สุด
การฉีดสเต็มเซลล์เองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากในตอนนี้ แล้วการฉีด stem cell ข้อดี ข้อเสียมีอะไรบ้าง มีประโยชน์อย่างไร และช่วยรักษาโรคอะไรได้หรือไม่ มาติดตามกัน
สเต็มเซลล์ เป็นเซลล์มีอยู่ในธรรมชาติ โดยจะมีอยู่ในสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ทั้งมนุษย์ สัตว์ และพืช สเต็มเซลล์คือเซลล์ที่มีความสามารถในการสร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ และต่อมาจึงสามารถพัฒนาเป็นอวัยวะทั้งหลายได้ เมื่อช่วยให้ร่างกายของมนุษย์เติบโตได้แล้ว สเต็มเซลล์ก็ยังคงมีอยู่ และกระจายไปยังร่างกายเพื่อทำหน้าที่ในการซ่อมแซมส่วนที่เกิดข้อบกพร่อง ซึ่งสเต็มเซลล์ก็เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากทีเดียว
สำหรับการฉีด stem cell ข้อดี ข้อเสียอยู่หลายอย่างเลย แต่จะขอเริ่มกันที่ข้อดี หรือว่าประโยชน์ของการฉีดสเต็มเซลล์กันก่อน ก็มีอยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ เลยคือ ประโยชน์ด้านความงาม โดยการนำสเต็มเซลล์มาใช้ทางด้านความงามที่มีการยืนยันแล้วว่าสามารถทำได้คือการฉีดไขมันที่ใบหน้า ซึ่งเป็นวิธีการที่จะสามารถช่วยยกกระชับใบหน้าได้ จึงช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ แต่ทั้งนี้การฉีดสเต็มเซลล์เพื่อเสริมความงามก็ไม่ใช่วิธีการที่ให้ผลลัพธ์ถาวร จึงทำให้ต้องมีการฉีดซ้ำอีก
ส่วนประโยชน์ด้านต่อมาก็คือ ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ โดยการที่เซลล์ต้นกำเนิดสามารถเปลี่ยนตัวเองจนกลายเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้นั้น ทำให้สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคชนิดต่าง ๆ ได้ ซึ่งปัจจุบันการรักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์ก็สามารถทำได้กับโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติในระบบเลือดเท่านั้น
เมื่อได้ทราบกันแล้วว่า การฉีดสเต็มเซลล์มีข้อดี หรือว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ในส่วนนี้ก็อยากให้ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของข้อเสีย stem cell กันด้วย เนื่องจากว่านอกจากที่จะมีข้อดีแล้ว การฉีดสเต็มเซลล์ก็ยังสามารถส่งผลเสียต่อผู้ที่รับสเต็มเซลล์ได้ด้วย โดยเฉพาะในการนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการรักษาโรค ที่จะต้องมีการนำมาใช้อย่างถูกวิธีเท่านั้น หากว่าใช้แบบผิด ๆ ก็จะสามารถทำให้เกิดโทษกับผู้ป่วยได้มากกว่าประโยชน์
อย่างไรก็ตาม การใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาไม่ถูกวิธี ก็อาจจะส่งผลทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแพ้ การอุดตันในหลอดเลือด หรือเกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ โดยความเสี่ยงทั้งหลายนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากกระบวนการจัดเตรียมสเต็มเซลล์ที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้รับสเต็มเซลล์มีความเสี่ยงที่จะเป็นมากที่สุดในการรับการรักษาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง คือ การป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดร้ายแรงตามมานั่นเอง
จากที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ก็คงจะช่วยทำให้สามารถเข้าใจแล้วว่าการใช้ stem cell ข้อดี ข้อเสียที่ต้องเจอมีอะไรบ้าง…แล้วที่บอกว่าการฉีดสเต็มเซลล์เป็นประโยชน์ทางด้านการแพทย์นั้น การฉีดสเต็มเซลล์ รักษาโรคอะไรได้บ้าง สำหรับในเรื่องนี้จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า สเต็มเซลล์สามารถช่วยรักษาโรค หรือสภาวะความผิดปกติต่าง ๆ ได้
ปัจจุบันนี้การใช้ stem cell รักษา ทางการแพทย์ได้มีการอนุญาตให้นำมาใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบเลือดเท่านั้น ได้แก่ โรคลูคีเมีย, โรคธาลัสซีเมีย, โรคจากภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด, โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม, ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก, โรคเอสแอลอี และ โรคไขกระดูกฝ่อ
นอกจากนั้นแล้ว สเต็มเซลล์ยังสามารถช่วยรักษาโรคทางระบบประสาทและสมอง, โรคหัวใจขาดเลือด, โรคสมองขาดเลือด, โรคอัมพาต, โรคเบาหวาน, โรคไตวาย, โรคปอด และ โรคสมองเสื่อม
ตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ปัจจุบันนี้สามารถนำเอา stem cell รักษาหลาย ๆ โรคได้แล้ว โดยหลักการการทำงานของสเต็มเซลล์ในการรักษาโรคก็มีดังนี้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ stem cell ข้อดี ข้อเสียมีอะไรบ้าง แล้วสเต็มเซลล์ รักษาโรคอะไรได้บ้าง ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า แม้การใช้สเต็มเซลล์จะมีข้อดี และมีประโยชน์ก็จริง แต่ก็มีข้อเสียที่มองข้ามไปไม่ได้เช่นกัน เพราะการรับสเต็มเซลล์จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเท่านั้น หากว่าได้รับสเต็มเซลล์ด้วยวิธีการที่ผิด และได้รับในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้ส่งผลเสีย และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายตามมาได้นั่นเอง